วันพุธที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2555

อันตรายที่มาจากอาหารขยะ

  • นักโภชนาการระบุโรคภัยที่จะมากับจังก์ฟู้ด ที่ให้พลังงานสูง แต่โปรตีนน้อยมาก และคุณค่าทางโภชนาการต่ำ อาทิ
  •  โรคหัวใจ คอเลสเตอรอลสูง เพราะกินอาหารที่มีไขมันบ่อย เมื่อสะสมในร่างกายเยอะๆ เสี่ยงเป็นโรคความดันโลหิต
  •  โรคข้อกระดูกอักเสบจากน้ำหนักที่มากเกินส่งผลให้ข้อเข่าและสะโพกล้า กระดูกอ่อนอาจเสื่อมสภาพ หรือหากสะสมไขมันในตับ อาจทำให้เป็นโรคตับแข็ง 
  •  เมื่อมีไขมันที่หน้าท้องมากเกิน ทำให้เกิดการต้านอินซูลิน สะสมกลูโคสในร่างกาย ทำให้เป็นเบาหวาน ส่งผลทำลายหลอดเลือดในจอตา ทำให้ตาบอด
  • รวมถึงโรคไขมันในเลือดสูง เสี่ยงต่อการเป็นเส้นเลือดในสมองอุดตัน หลอดเลือดพิการ เพราะไขมันไปเกาะผนังหลอดเลือด
  • นอกจากนี้นักวิจัยยังพบอีกว่า การกินอาหารที่มีแต่ไขมันสูงตั้งแต่เด็กๆ จะเป็นอุปสรรคร้ายแรงต่อพัฒนาการทางสมอง เพราะไขมันจะหยุดยั้งสมองไม่ให้รับพลังงานจากกลูโคสที่จำเป็นในการพัฒนาสมองของเด็กวัยกำลังเจริญเติบโต ซึ่งสมองของเด็กจะได้รับความกระทบกระเทือนจากภาวะดังกล่าวนี้ อาหารขยะยังเป็นสารก่อภูมิแพ้ โดยมีสารที่ก่ออาการแพ้หลายกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสารแต่งสีอาหาร เช่น ทาร์ทราซีน (สีเหลืองส้ม) คาร์มัวซีน (สีม่วงแดง) อะมาแรนต์ (สีแดง) อพอนเซีย (สีแดง) ซึ่งพบได้ในขนมและน้ำอัดลมต่างๆ ที่มีสีสันสดใส

    อาหารขยะ ได้แก่ขนมกรุบกรอบ บะหมี่ซอง และน้ำอัดลม อาหารกลุ่มนี้เป็นแป้งที่ขัดสีเอาเส้นใย และวิตามินออกหมด น้ำตาลก็ฟอกขาว แล้วแถมเติมด้วยสารแต่งสี แต่งกลิ่น กับผงชูรสเข้าไป ตามด้วยกระบวนการทอดในน้ำมันซ้ำๆ เวลาที่ร่างกายรับเอาแป้งขัดขาวหรือน้ำตาลฟอกขาวเข้าไป จะย่อยแล้วดูดซึมเข้าสู่เซลล์อย่างรวดเร็ว เข้าสู่วงจรชีวเคมีที่เรียกว่า วงจรเครปส์ ภายในเซลล์แล้วเผาผลาญให้เกิดพลังงานทันที โดยปกติวงจรเคมีนี้ต้องการวิตามินบีทั้งกลุ่ม ทำหน้าที่เป็นโคเอนไซม์เพื่อจรรโลงให้กระบวนการเคมีผ่านไปโดยราบรื่น ในเมื่อไม่ได้รับวิตามินมาพร้อมกับอาหาร ร่างกายจะต้องใช้วิตามินที่เป็นทุนเก่า ซึ่งปกติใช้อยู่ในเซลล์สมอง มาช่วยให้กล้ามเนื้อได้เผาผลาญให้เกิดกำลังงาน ผลก็คือ เมื่อกินอาหารกลุ่มนี้บ่อยๆ วิตามินบีจะหมดไปจากระบบประสาทอย่างรวดเร็ว เป็นเหตุให้เกิดอาการต่างๆ เช่นสมองมึนงง สมาธิสั้น หงุดหงิด ซุกซนเกินเหตุ และง่วงเหงาซึมเซา

    สารแต่งสี แต่งกลิ่น สารกันบูด สารกันเชื้อราและผงชูรส เป็นสารเคมีที่ร่างกายไม่ได้ใช้ประโยชน์ ีเป็นเพียงกับดักที่ล่อตาล่อลิ้นให้กินไม่ยั้งกลืนไม่หยุดเท่านั้นเอง เมื่ออยู่ในร่างกายก็รังแต่จะเป็นขยะที่เป็นภาระแก่ตับและไต ต้องคอยขับออก จึงทำให้ต้องทำงานหนัก และเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคไตวาย ตับอักเสบ ไขมันพอกตับ และมะเร็งได้ในเวลาที่ไม่นาน กระบวนการผลิตที่ใช้น้ำมันทอดซ้ำๆ ในแต่ละวัน ที่โรงงานทอดบะหมี่ซอง เครื่องจักรแต่ละเครื่องจะทอดบะหมี่ได้ 50,000 ซองต่อวัน ผลก็คือ กระบวนการเผาไหม้ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งยิงทำลายโครงสร้างของกรดไขมันในน้ำมัน แตกตัวเป็นสารโมโนเมอร์ ไดเมอร์ ไตรเมอร์ โพลีเมอร์ บ้างม้วนตัวแล้วจับกับคลอไรด์ กลายเป็นสารไดอ็อกซิน ซึ่งทั้งหมดเป็นบั่นทอนภูมิต้านทาน เป็นเหตุผู้บริโภคมีภูมิต้านทานต่ำ ภูมิแพ้ และก่อมะเร็งในที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น